1. คอมพิวเตอร์มีกี่ประเภท อะไรบ้าง อธิบาย พร้อมรูปประกอบมีทั้งหมด 5 ประเภท ได้แก่(1). ไมโครคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็ก บางคนเห็นว่าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานส่วนบุคคล หรือเรียกว่า พีซี (Personal Computer : PC) สามารถใช้เป็นเครื่องต่อเชื่อมในเครือข่าย หรือใช้เป็นเครื่องปลายทาง (terminal) ซึ่งอาจจะทำหน้าที่เป็นเพียงอุปกรณ์รับและแสดงผลสำหรับป้อนข้อมูลและดูผลลัพธ์ โดยดำเนินการการประมวลผลบนเครื่องอื่นในเครือข่ายอาจจะกล่าวได้ว่าไมโครคอมพิวเตอร์ คือเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีหน่วยประมวลผลกลางเป็นไมโครโพรเซสเซอร์ ใช้งานง่าย ทำงานในลักษณะส่วนบุคคลได้ สามารถแบ่งแยกไมโครคอมพิวเตอร์ตามขนาดของเครื่องได้ดังนี้
1.1 คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ (desktop computer) เป็นไมโครคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กถูกออกแบบมาให้ตั้งบนโต๊ะ มีการแยกชิ้นส่วนประกอบเป็น ซีพียู จอภาพ และแผงแป้ง
1.2 โน้ตบุ๊คคอมพิวเตอร์ (notebook computer) เป็นไมโครคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดและความหนามากกว่าแล็ปท็อป น้ำหนักประมาณ 1.5-3 กิโลกรัม จอภาพแสดงผลเป็นแบบราบชนิดมีทั้งแบบแสดงผลสีเดียว หรือแบบหลายสี โน้ตบุ๊คที่มีขายทั่วไปมีประสิทธิภาพและความสามารถเหมือน กับแล็ปท็อป

1.3 แล็ปท็อปคอมพิวเตอร์ (laptop computer) เป็นไมโครคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่วางใช้งานบนตักได้ จอภาพที่ใช้เป็นแบบแบนราบชนิดจอภาพผนึกเหลว (Liquid Crystal Display : LCD) น้ำหนักของเครื่องประมาณ 3-8 กิโลกรัม






วันที่ 28 มิถุนายน 2551
******************************************************************
ข้อ 2.
คอมพิวเตอร์แบบฝัง (Embeddded computer)
เป็นคอมพิวเตอร์ที่ถูกฝังไปในอุปกรณ์ ทำให้มองไม่เห็นรูปลักษณ์ภายนอกว่าเป็นคอมพิวเตอร์ นิยมใช้ในการทำงานเฉพาะด้านโดยควบคุมการทำงานบางอย่าง เช่น เตาอบไมโครเวฟ ระบบการเติมน้ำมัน นาฬิกาข้อมือ อุปกรณ์เล่นเกม เป็นต้น
ที่มา--- http://www.rbru.ac.th/courseware/science/4000107/lesson3/lesson3.6.html
วันที่ 28 มิถุนายน 2551
********************************************************************
ข้อ3.
ความแตกต่างของข้อมูล และสารสนเทศ คือ ข้อมูลเป็นส่วนที่จะมาก่อนสารสนเทศ หรือเป็นต้นกำหนดของสารสนเทศ ส่วนสารสนเทศ จะเกิดจากการนำข้อมูลที่ได้รวบรวมจากแหล่งข้อมูล ทั้งภายในและภายนอกองค์กร ผ่านขั้นตอน หรือกระบวนการในการประมวลผลข้อมูล เพื่อให้ได้สารสนเทศ เพื่อนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจได้
ที่มา--- http://www.lcc.ac.th/WEB_T/noi/Templates/Untitled-333.htm
วันที่ 28 มิถุนายน 2551
*************************************************************************************
ข้อ 4.
เทคโนโลยีทางด้านการผลิตวงจรอิเล็กทรอนิกส์ยังคงก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง มีการสร้างเป็นวงจรรวมที่มีขนาดใหญ่มารวมไว้ในแผ่นซิลิคอนขนาดเล็ก เรียกว่า วงจรวีแอลเอสไอ (Very Large Scale Integrated circuit : VLSI) เป็นวงจรรวมที่สามารถนำทรานซิสเตอร์จำนวนล้านตัวมารวมกันอยู่ในแผ่นซิลิคอนขนาดเล็ก และผลิตเป็นหน่วยประมวลผลของคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อน เรียกว่า ไมโครโพรเซสเซอร์ (microprocessor)
การใช้วงจรวีแอลเอสไอ เป็นวงจรภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำให้สามารถผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ให้มีขนาดที่เล็กลงกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ในยุคทรานซิสเตอร์ แต่ประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกว่า ไมโครคอมพิวเตอร์ (microcomputer) ไมโครคอมพิวเตอร์ จึงเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่แพร่หลายและมีผู้ใช้งานกันทั่วโลกเป็นจำนวนหลายล้านเครื่อง
-การที่คอมพิวเตอร์มีขีดความสามารถสูง เพราะวงจร วีแอลเอสไอ หรือที่เรียกว่า ชิป (chip) เพียงตัวเดียว สามารถสร้างเป็นหน่วยประมวลผลของเครื่องทั้งระบบหรือเป็นหน่วยความจำที่มีความจุสูงหรือเป็นอุปกรณ์ควบคุมการทำงานต่าง ๆ ขณะเดียวกันพัฒนาการของฮาร์ดดิสก์ก็ทำให้ฮาร์ดดิสก์ก็มีขนาดเล็กลง มีความจุเพิ่มขึ้น แต่มีราคาถูกลง เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์จึงมีขนาดตั้งแต่อยู่ในอุ้งมือที่เรียกว่า ปาล์มท๊อป (palmtop) เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดพกพาที่เรียกว่าโน็ตบุ๊ก (notebook) และคอมพิวเตอร์ขนาดตั้งโต๊ะ (desktop)
chip
-ไมโครคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานได้ง่าย และมีซอฟต์แวร์สำเร็จในการใช้งานจำนวนมาก เช่น ซอฟต์แวร์ประมวลคำ (เช่น ไมโครซอฟต์เวิร์ด) ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน (เช่น ไมโครซอฟต์เอกเซล) ซอฟต์แวร์กราฟิก (เช่น โปรแกรมเพนต์) เป็นต้น

ที่มา--- http://www.sakolraj.ac.th/media/Part3%20Development.htm
วันที่ 28 มิถุนายน 2551
************************************************************************************
ข้อ5.
- เล่นเกมส์
- สืบค้นข้อมูล ทำรายงาน
- หาความรู้เพิ่มเติม
- ใช้ในการสนทนาคุยกับเพื่อนผ่านโปรแกรม Msn
********************************************************************